ภาคอีสาน

ในภาคอีสานมีลักษณะทำการเกษตรแบบยังชีพ (subsistence) เป็นส่วนมา คือทำการเกษตรเพื่อที่จะนำผลิตผลมาบริโภคในครัวเรือนของตน เช่น ปลุกข้าวไว้กิน, ปลูกฝ้ายไว้ทอผ้า เลี้ยงไหมไว้ท่อผ้า เป็นต้น การเกษตรส่วนใหญ่จะเน้นที่ การทำนา เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการทำนายังคงใช้แรงงานจากคนและสัตว์อยู่ บริเวณปลูกข้าวที่สำคัญคือที่รายลุ่มแม่น้ำเกษตรกรยังมีการใช้แรงงานไม่เต็มที่ตลอดปี ในช่วงฤดูแล้งเป็นช่วงที่ทำงานไม่เต็มที่มากที่สุด เลยต้องย้ายเข้ากรุงเพื่อไปหางานที่นั้นแทน
ภาคอีสานมีพื้นที่ดินขาดความอุดมสมบูรณ์กว้างขวาง จึงทำให้ราษฎรได้รับผลตอบแทนที่ต่ำมาก
ในภาคอีสาน มีการเลี่ยงสัตว์ แบบพื้นเมืองเป็นส่วนมาก คือ จะเลี้ยงโคกระบือเป็นฝูงเล็กๆ ปล่อยให้หากินหญ้าตามไร่นา
ทรัพยากรแร่ธาตุที่ปรากฏอยู่ในทุกจังหวัดของอีสานคือ เกลือหิน ซึ่งสะสมอยู่ในดินชั้นล่าง แต่การขุดมาใช้งานยังไม่ได้ทำกันเลยและแร่เหล็ก, แมงกานีส, ยิบซัม, สังกะสี, ตะกั่ว, ทองแดง ในจังหวัดเลย
ทรัพยากรป่าไม้ของภาคอีสาน จะมีป่าดงดิบในบริเวณภูเขาและลุ่มน้ำและต่างๆ ที่ความชุ่มชื่นมาก เช่นป่าแถบจังหวัดเลย, ข่อนแก่น, นครพนม, สกลนคร, นครราชสีมา และอีกหลายจังหวัดที่มี๓เขาป่าเหล่านี้ถูกบุกรุกทำลายอย่างหนัก เพื่อที่จะทำเป็นที่เพราะปลูกและนำไม้ออกมาใช้
ส่วนป่าแดง, ป่าแพะ, หรือป่าโคกหรือป่าเต็งรัง มีมากถึง 70-80 % ของพื้นที่ต่างๆ ในภาค ซึ่งป่าชนิดนี้จะเจริญเติบโตเร็วในบริเวณที่เป็นดินทราย, ดินกรวด, ดินลูกรัง, ซึ่งเป็นดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์และแห้งแล้งในฤดูแล้ง ลักษณะของป่าชนิดนี้จะเป็นป่าโปร่ง มีต้นไม้ขนาดเล็กถึงปานกลาง ไม้มีค่าของป่านี้คือ ไม้เต็ง, รัง, ประดู่, พลวง และพื้นล่างของป่าจะมีหญ้าขึ้นแซมทั่วไป ป่าชนิดนี้ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการโค่นถางทำลายเพื่อใช้งานเป็นที่เพราะปลูก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น